ผิดที่ผิดเวลาไปสักหน่อยสำหรับแข้งมากความสามารถ ที่ย้ายจาก มาร์กเซย์ มาอยู่กับทีมสาลิกาดงในปี 2015 ถึงอย่างไรด้วยการพึ่งออกจากประเทศบ้านเกิด การปรับตัวเป็นไปได้ยาก เขาไม่ค่อยคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมของลีกผู้ดี ทำให้ทีมปล่อยยืมกลับไปต้นสังกัดเก่า จนสุดท้ายทีมต้องขายขาดไปให้ มาร์กเซย์ โดยยอมขาดทุนในดีลนี้ถึง 5 ล้านปอนด์ แต่ทุกอย่างกลับกัน เขาโชว์ฟอร์มได้ดีกว่าตอนแรกที่อยู่กับทีมโอเอ็ม จนถูกเรียกติดทีมชาติในปี 2017 ในตอนนี้ด้วยวัย 25 ปี เขาก้าวมาเป็นนักเตะที่หลายทีมจับตามอง และพร้อมจะกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในพรีเมียร์ลีก แต่การจะกลับไปอยู่กับทีมเดิม อาจจะเป็นไปได้ยาก ด้วยความสามารถในตอนนี้ บวกกับค่าตัวที่สูงขึ้นกว่าแต่ก่อนเกือบเท่าตัว สถานีต่อไปต้องเป็นทีมใหญ่เท่านั่น

ซิโมเน่ ซาซ่า

เจ้าของท่ายิงซอยเท้าในตำนาน เขาพกดีกรีทีมชาติอิตาลีติดตัวมาในการย้ายแบบยืมตัวจาก ยูเวนตุส ทีมแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา มายังพรีเมียร์ลีกกับทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่แล้วด้วยปัจจัยหลายๆอย่างเจ้าตัวกลับโชว์ฟอร์มไม่อออก จากความคาดว่าที่สูงลิปจากแฟนบอลขุนค้อน จนสุดท้ายได้ลงสนามแค่ 8 เกม ก่อนสโมสรจะขอยกเลิกสัญญายืมตัวกลางคัน และเป็น บาเลนเซีย ที่ขอเป็นผู้อุปการะคุณกองหน้าหัวใสรายนี้ไปดูแล และเขากลับได้รับโอกาส ก่อนจะตอบแทนด้วยประตูเป็นกอบเป็นกำ ช่วยยิงให้ทีมค้างคาว 12 ประตูในซีซั่นนี้ ทั้งๆที่ตอนมาเล่นยังประเทศอังกฤษ ไม่สามารถลั่นสกอร์ได้แม้แต่ตุงเดียว ด้วยฝีเท้าและความมั่นใจของเขาในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องหน้าแปลกหากจะย้อนกลับมายังพรีเมียร์ลีกอีกครั้งหนึ่ง

เดอะแบกของทีม ปีศาจแดง-ดำ ในซีซั่นนี้อย่างแท้จริง สำหรับกองกลางซ้ายสั่งได้จากแดนกระทิงดุ ที่หากใครยังจำกันได้ เขาเคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกกับ ลิเวอร์พุล โดยก่อนหน้านั่นเขาปฏิเสธทั้งยักษ์ใหญ่าจากสเปน บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด เพื่อเลือกเข้าสู่อคาเดมี่ของ ลิเวอร์พูล ในปี 2010 แสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวนั่นเป็นแฟน และคลั่งใคล้ทีมดังจากเมอร์ซี่ย์ไซด์อยู่ไม่น้อย แต่ชีวิตในแดนผู้ดีไม่ได้โรยด้วยกรีบกุหลาบบ เมื่อเขาไม่สามารถยึดเป็นตัวหลักกับทีมได้ พร้อมโดนปล่อยยืม ก่อนจะลงเอยกับ เอซี มิลาน และโชว์ฟอร์มจนโดนทีมชาติสเปน เรียกไปติดทีมชุดใหญ่ ถึงอย่างไรเขาก็มีข่าวพันพันกับ สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล ที่ยังคอยดูสถานการณ์ของอดีตผู้เล่น ที่ไปได้ดิบได้ดีในลีกมะกะโรนี ก็อาจจะมีโอกาสหวนคืนประเทศอังกฤษอีกครั้ง ไฮไลท์บอล

ไม่มีชื่อนี้คงไม่ได้ สำหรับอดีตดาวซัลโวลีก ฮอลแลนด์ ในปี 2015 ก่อนจะโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตอนนั่นเป็น หลุยส์ ฟาน กัล คุมบังเหียน กระชากตัวมาด้วยความหวังกับแข้งรายนี้ไว้สูงลิป ถึงขนาดยกเบอร์ 7 ซึ่งเชื่อกันว่าดีพอจะสานต่อตำนานหลายๆคนที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ แม้โปรไฟล์จะดีขนาดไหน แต่ในลีกนี้ไม่ง่ายสำหรับสตาร์ เขาโดนเล่นงานทั้งในและนอกสนาม ขาดทั้งความมั่นใจในฟอร์มการเล่นของตัวเอง ดูเหมือน เมมฟิส คนเดิมที่แดนกังหันลมไม่มีอยู่จริง แม้จะพลักดันให้เปลี่ยนไปเล่นในหลายตำแหน่ง แต่ก็ไม่สามารถจะโชว์ฟอร์มที่ดีได้ สุดท้ายต้องจำใจเก็บกระเป๋าไปเล่นกับ ลียง ที่ลีกเอิง ก่อนจะฉายแววอร่อย ยิงได้เยอะขึ้นผลงานดีขึ้น ความมั่นใจก็กลับมา และหากยังข้องใจในพรีเมียร์ลีก เวลานี้ก็เหมาะสมในการจะกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง