เปิดแทคติก”คล็อปป์” ทำไมแนวรับถึงแกร่งขึ้น
หลายปีหลังมาปัญหาของ ลิเวอร์พูล ที่ทำให้พวกเขาล้างลาแชมป์มานานนับเกือบ 10 ปี เป็นเพราะแนวรับที่ไม่ผ่าน มอก.(ไม่เอาการ) แต่จากการทำทีมของ คล็อปป์ ทำไมภูผาของหงส์แดงนั่นแกร่งขึ้น เราจะพาไปดูกัน… !!
ป๋าดัน
ให้ความมั่นใจแก่สายเลือดใหม่
เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ คือต้นแบบของนักเตะดาวรุ่ง ที่พัฒนาฝีเท้าขึ้นมา แต่หากเขาไม่มีโอกาสจาก คล็อปป์ ก็เป็นเหมือดาวที่อยู่ในมุมมืดเท่านั้น นอกจากการให้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องสิ่งหนึ่งที่กุนซือท่านนี้เชี่ยวชาญ และสามารถซื้อใจแข้งอายุน้อยของทีมไปได้คือการให้ความเชื่อใจ แม้ อาโนล จะมีผิดพลาดบ้างหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่เขาจะตกเป็นแพะรับบาป ปล่อยให้ยืนเฉาตาย เพราะความผิดพลาดเกิดขึ้นกันได้ และคนที่ยืดอกรับผิดชอบทุกครั้งก็คือ คล็อปป์ นอกจากนี้ทีมยังมีดาวรุ่งแนวรับฝีเท้าดีหลายคนอย่าง โจ โกเมซ ที่โชคร้ายบาดเจ็บยาวเขาคือความหวังในอนาคตทั้งทีมชาติและ สโมสร และในซีซํ่นหน้าเราอาจจะเห็นเด็กๆถูกดันขึ้นมาเพิ่มอีก
ตัวเก๋าก็ไม่ทิ้ง
สมดุลของทีมจำเป็นต้องมี
แม้จะเป็นโค้ชที่มองถึงอนาคตค่อนข้างไกล มีการวางแผนไม่ใช่ปีต่อปี แต่พยายามวางรากฐานระยะยาว แต่ คล็อปป์ ก็ไม่ลืมสมดุลของฟุตบอล การที่จะมีแต่เด็ก และค่าเฉลี่ยนักเตะอายุน้อยที่สุด ก็ไม่ใช่คำตอบของความสำเร็จ เพราะฉนั้นทีมจำเป็นต้องมีนักเตะอย่าง โจเอล มาติป, รักนา คลาวาน รวมถึง เจมส์ มิลเนอร์(ที่กำลังจะต่อสัญญาใหม่) อยู่กับทีมด้วยเช่นกัน นักเตะที่อายุแตะหลักเลข 3 แม้พละกำลังอาจจะสู้เด็กที่พึ่ง 20 หมาดๆไม่ได้ แต่สิ่งที่ไม่สามารถฝึกฝนได้อย่างประสบการณ์ ก็แสดงให้เห็นมาหลายครั้งว่ามันจำเป็นแค่ไหน แต่แทคติกในการเลือกนักเตะรุ่นเดอะของคล็อปป์คือ เก๋า เก๋ง และกระหายในชัยชนะ แค่นั่นก็เพียงพอแล้ว
เสริมในจุดอ่อน
ไม่ดื้อที่จะใช้นักเตะชุดเดิมๆ
สร้างกัปตันในแนวรับ
แรงกระตุ้นคือพลัง
ให้ คล็อปป์ ตะเบ่งเสียง แสดงวาดลวดลายข้างสนามมากแค่ไหน บ้างครั้งมันก็อาจจะส่งไม่ถึงผู้เล่นทั้ง 11 คนในสนาม การที่กุนซือพยายามสร้างนักเตะที่เปรียบสเหมือนปากและเป็นเสียงยามที่ทีมตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก หรือกำลังเสียสมาธิ ก็เป็นอีกประโยชน์อย่างนึงที่จะช่วยดึงให้เพื่อนร่วมทีมกลับเข้าสู่เกม คล็อปป์ ได้ซื้อฟานไดจค์มาด้วยราคาที่สูงมาก เขาไม่ต้องการแค่ฝีเท้าที่ไม่มีใครสงสัยแล้วในลีกว่าเขาแข็งแกร่ง และเฉียบขาดเพียงใดในเกมรับ แต่อีกอย่างที่มีอยู่ในตัว ฟานไดจค์ คือความเป็นผู้นำเห็นได้จากเป็นกัปตันทีมตั้งแต่ต้นสังกัดเก่า รวมถึงทีมชาติฮอลแลนด์ แถมยังมีจิตวิทยาสามารถรวมความเป็นหนึ่งเดียวกันของทีมให้แกร่งขึ้นได้อีกด้วย