ได้แชมป์ แต่ไม่ได้ไปต่อ..
อย่างที่ทราบกันว่า เคลาดิโอ รานิเอรี่ โดนปลดจากการเป็นผู้จัดทีม เลสเตอร์ ซิตี้ แม้ในซีซั่นก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์ลีกก็ตาม วันนี้เราจะพาไปดูกุนซือที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน จะมีใครบ้างไปลุยกันเลย..
อ็อตโต้ เรห์ฮาเกล
“ไกเซอร์สเลาเทิร์น”
‘คิง อ็อตโต้’ คือบุคคลที่พา ไกเซอร์สเลาเทิร์น เลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีกาในฤดูกาล 1996-97 และเขาคือคนที่มีชะตากรรมคล้าย เคลาดิโอ รานิเอรี่ เพราะในซีซั่นถัดมา เขาสร้าง “เทพนิยาย”แบบน่าตะลึงสุดๆเมื่อพาทีมเถลิงนัลลังคว้าแชมป์ลีกสูงสุดทันที แต่ด้วยความขัดแย้งภายในทีม ทำให้เขาต้องอำลาไปในปี 2000 นับจากนั้น ไกเซอร์สเลาเทิร์น ก็ไม่เคยเข้าใกล้ลีกสูงสุดอีกเลย
โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ
“เชลซี“
ถ้าจะว่ากันตามจริง ดิ มัตเตโอ ก็ไม่ใช่กุนซือระดับท็อป หรือมีบารมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ และหากเทียบกับกุนซือของ เชลซี เขานับว่าประสบการณ์ด้อยที่สุด แต่เขาได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่กุนซือเก๋าๆหลายต่อหลายคยก็ไม่สามารถทำให้ เชลซีได้ เมื่อพาเชลซีไปถึงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นการได้แชมป์ครั้งแรกของสโมสร และครั้งเดียวจนถึงปัจจุบัน
หลุยส์ ฟาน กัล
“บาเยิร์น มิวนิค“
จารย์กัล สมัยที่ทำงานในเยอรมันกับ บาเยิร์น มิวนิค เพียงฤดูกาลแรกที่เขาเป็นแม่ทัพ ก็โชว์ศักยภาพของตัวเองโดยพาทีมคว้าดับเบิลแชมป์ ตั้งแต่ปีกแรกที่ก้าวเข้ามาทำทีม และเกือบจะคว้าโทรฟี่ใบที่ 3 มาได้แต่ก็พลาดแพ้ อินเตอร์ มิลาน ในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้รองแชมป์แบบน่าเสียดาย แต่ในซีซั่นถัดมาเขาก็ต้องเก็บกระเป๋าออกจากทีม หลังพาเสือใต้ได้แค่อันดับ 3 ในลีก
ฟาบิโอ คาเปลโล
“เรอัล มาดริด“
หลังจากที่ราชันห่างหายจากแชมป์ลีกนานถึง 3 ซีซั่นติด เรอัล มาดริด ชายคนที่มาหยุดความเลวร้ายของทีมก็คือ ฟาบิโอ คาเปลโล ที่พา ราชันชุดขาว กลับมายึดเบอร์ 1 ของ ลาลีกาลีก สเปนได้สำเร็จแต่ก็เหมือนตลกร้าย หลังจากที่ใช้สไตล์ของตัวเองพาทีมคว้าแชมป์ แต่ฤดูกาลถัดมาเขาโดนเด้งพ้นทีม โดยได้รับคำอธิบายแบบเจ็บๆจาก รามอน กัลเดรอน ประธานสโมสรในเวลานั้น ว่าสไตล์ของเขาไม่สวยงามและไม่เข้ากับทีม
บิเซนเต้ เดล บอสเก้
“เรอัล มาดริด“
อีกคนจากค้าย ราชันชุดขาว ที่แม้ผลงานจะเทพขนาดไหนแต่ก็ไม่พ้นโดนตะเพิดอีกราย เขาพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย แต่เมื่อหมดสัญญาเขากลับโดนเมินเฉยซะอย่างงั้น โดยเหตุผลจาก ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสร กล่าวว่า เขาไม่ใช่กุนซือในระยะยาว ไม่ได้เป็นอนาคตของทีม หลังจากที่เขาจากไปอีก 4 ปีถัดมา เรอัล มาดริด ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้แม้แต่ใบเดียว
เจอร์เกน คล็อปป์
“โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์“
ก่อนจะมาโชว์ผลงานใน พรีเมียร์ลีก กุนซือรายนี้เคยฝากผลงานไว้แบบสวยสดงดงามกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขากลายเป็นกุนซือระดับท็อปทันที เมื่อโค่น เสือใต้ บาร์เบิร์น มิวนิคได้สำเร็จ ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย เดเอฟเบ โพคาล 1 สมัย เขากลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลเสือเหลืองทันที แต่แล้วเมื่อซีซั่น 2014/2015 ด้วยผลงานที่ย่ำแย่ทำให้เขาโดนเด้ง ท่ามกลางความโศกเศร้าของแฟนบอลทุกคน
โชเซ มูรินโญ่
“เชลซี“
เขาคือคนนำความสำเร็จมาสู่ เชลซี เพราะหลังจากที่รอคอยมาอย่างยาวนานแสนนานถึง 50 ปี แต่แล้วเขาก็ต้องกระเด็นหลุดออกจากตำแหน่งไปในปี 2007 หลังจากที่มีการผิดใจกับเจ้าของสโมสร โรมัน อับราโมวิช ประธานสโมสรของทีม แต่หลังจากเมื่อมีการเคลียร์ใจก็กลับมาคุมทีมอีกคำรบหนึ่ง และพาเชลซีเถลิงแชมป์พรีเมียร์ลีกทันทีในปี 2014/2015 แต่แล้วในซีซั่นถัดมา เชลซี ฟอร์มตกลงสุดๆจนน้ามู โดนเตะก้นเด้งออกจากทีมอีกเป็นรอบที่ 2
#คะนึง ตึงเปรี๊ยะ