เป็นอีกหนึ่งเกมส์ที่ไม่น่าจดจำของป็อกบา แดงเดือดครั้งแรก ประกาศก้องก่อนแข่งจะเก็บสามแต้ม แฮนด์บอล ทีมเสียประตู ฟอร์มห่วยสุดตั้งแต่มา และนี่คือ 5 เหตุผลของฟอร์มแย่ๆของป็อกบาในเกมส์นี้ โดยทีมงานทีเด็ดบอล
5.แรงกดดัน
แข้งทีมชาติฝรั่งเศษ
ย้ายมาด้วยค่าตัวสถิติโลก แน่นอนทุกคนย่อมจับตามองเขา ทุกฝีก้าวที่เคลื่อนไหว ทุกการจ่ายบอล จะถูกจับจ้อง พร้อมเสียงวิจารย์ต่างๆนาๆ ทำให้นักเตะมากทรงผมอย่างป็อกบาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล
เจ้าตัวเองก็อยากจะแสดงให้กลุ่มคนที่คอยค่อนขอดตนเองได้เห็น ว่าไม่ได้มีดีแค่ทรงผมหรือราคาค่าตัว แต่ในเกมส์นี้ป็อกบาก็พ่ายแพ้ให้กับความกดดันนั้น เขาทำเรื่องยาก ให้เป็นเรื่องง่าย แต่งบอลมากจังหวะ คิดเยอะ คิดนาน ติดเลี้ยง เพียงเพราะต้องการพิสูนจ์ให้ทุกคนเห็น มันเป็นเรื่องดีที่เรากระหายจะพิสูนจ์ตัวเอง แต่อะไรที่มันมากไป มันก็ส่งผลเสียได้เหมือนกัน ป็อกบาน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดีหลังจบเกมส์
4.แฮนด์บอล
ก่อนที่จะทำแฮนด์บอลจนเสียจุดโทษ
ฟอร์มของป็อกบาก็ไม่ได้เรียกว่าเลวร้ายนัก เขายังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ความกระหาย แต่ทันใด้เมื่อลูกบอลจากมุมธงของมิลเนอร์ พุ่งตรงเข้ามาพร้อมกับจังหวะเทคตัวโหม่งของกองกลางสัญชาติฝรั่งเศษ จะด้วยสัญชาตญาณหรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เมื่อคุณกางแขน จนมือสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษตนเอง จุดโทษคือสิ่งที่คุณต้องสูญเสีย
หลังจากนั้นเหมือนความกดดันยิ่งถาโถมเข้าใส่ป็อกบา เมื่อเขายิ่งเล่น ก็ยิ่งแย่ ความกระหายที่จะพิสูจย์ตัวเองยิ่งมากขึ้นจากความผิดพลาดที่ตัวเองได้ก่อ เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อลบมันออก แต่เหมือนยิ่งพยายามเท่าไหร่ ความคิดอ่าน การควบคุมอารมณ์ สมาธิในเกมส์ก็หายไป จนทำอะไรก็ผิดพลาดไปซะหมด
3.อยากโชว์
เมื่อตัวเองการเป็นต้นเหตุ
ทำให้ทีมเสียจุดโทษ แรงกดดันจากตัวเองยิ่งมากขึ้น กลายเป็นว่า เจ้าตัวพยายามทำทุกยิ่งทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด จังหวะนี้ไม่ได้ ก็หาจังหวะใหม่จนมากจังหวะ ทุกการจ่ายบอลต้องสมบูรณ์แบบจนกลายเป็นช้า ต้องการพาบอลเข้ากรอบเขตโทษคู่แข่งให้เร็วที่สุด อันตรายที่สุด จนทำให้ติดเลี้ยง เมื่อเจอเกมส์เร็วของลิเวอร์พูลเข้าไป ยิ่งส่งผลให้สิ่งที่ป็อกบาทำกลายเป็นผลเสียของทีม
เพียงเพราะต้องการโชว์ ต้องการให้ทุคคนเห็นว่าเขามีศักยภาพ เขาสามารถลบล้างสิ่งผิดพลาดที่ตนเองได้ทำลงไปได้ แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดก็แค่นั้น
2.เมื่อโดนรุมจากทั่วทุกทิศ
ในเกมส์ก่อนๆ
แข้งทีมชาติฝรั่งเศษ โชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมเนื่องจากมีผู้ช่วยอย่างเอร์เรร่า คอยวิ่งไล่ตัดเกมส์ และพี่ใหญ่อย่างไมเคิล คาร์ริค คุมจังหวะให้ ทำให้ป็อกบามีอิสระในเกมส์มาก จินตนาการการเล่นได้อย่างสะดวงสบาย
แต่เมื่อต้องต้อนรับผู้มาเยือนอย่างลิเวอร์พูล ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเพรสชิ่ง บีบพื้นที่ โดยสูตรการเล่น “เกเก้นเพรสซิ่ง” ที่พวกเขาช่ำชอง กองแดนกลางของทีมผีแดงต่างอยู่ในสถานะการณ์ลำบาก ไมเคิล คาร์ริค ถูกโจมตีอย่างหนักจนคุมจังหวะเกมส์ไม่ได้เพราะสู้ความเร็วนักเตะหงส์แดงไม่ได้ เอร์เรราก็เหนื่อยเป็นเท่าตัวที่ต้องตามติดเฮนเดอร์สัน
ทุกครั้งที่ป็อกบาได้บอล จะมีแข้งหงส์แดงรุมเข้ามาจากทั่วทุกทิศ แล้วยิ่งเจ้าตัวคิดช้า ทำช้า ติดเลี้ยงยิ่งทำให้เสียบอลบ่อยครั้ง จนทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย
1.เจอร์เก้น คล็อปป์
เครคิตส่วนหนึ่ง
คงต้องยกให้กับ ผู้ชายชื่อเจอรเก้น คล็อปป์ เอ็มเร่ ชาน,โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่,อลัม ลัลลาน่ารวมถึงจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ถูกกำชับมาอย่างหนักแน่นว่า เมื่อมิดฟิดล์ผีแดงได้ครองบอล พวกคุณต้องอัดพวกเขาให้ร่วง
ยิ่งเมื่อพี่ป็อกบาแกเอาแต่เล่นมากจังหวะ ถือบอลไว้กับตัวนาน ยิ่งตกเป็นเป้าโจมตีของเกเก้น เพรสชิ่ง จะให้ได้ชัดว่าในเกมส์นี้ งานหลักของเอ็มเร่ ชาน ไม่ใช่การเล่นเกมส์รุก แต่เป็นการไล่หวดแข้งผีแดงสัญชาติฝรั่งเศษนั่นเอง
#ภาคผนวก