DNA ไม่ใช่ต่างดาว !?

การจะเล่นกับทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ไม่ใช่เรื่องง่าย ขนาดแข้งระดับท็อปหลายคนยังไปไม่เป็น เราจะพาไปดูว่ามีใครกันบ้างที่ไม่สามารถไปต่อบนยานแม่ได้ แต่กลับไปเฉิดฉายอยู่กับทีมอื่น พร้อมแล้ว ลุยเลยรอไรล่ะ !

เปเป้ เรนา

“ปี 2000-2002 ลงเล่น 30 นัด”

เด็กจากเมือง มาดริด ประเทศสเปน แต่เขาเริ่มเข้าวงการฟุตบอลอาชีพกับทีมใน คาตาลัน อย่าง บาร์เซโลน่า โดยได้เล่นในชุด C และ B ตามลำดับ จนในปี 2000 เขาได้ก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของ เจ้าบุญทุ่ม แต่ก็ไม่สามารถยึดมือ 1 ได้ โดยเขาอยู่กับทีมชุดใหญ่ได้เพียงแค่ 2 ปี ก็ต้องเก็บกระเป๋าไปในที่สุดเพราะได้รับโอกาสน้อยนิด โดยเขาได้ย้ายไปยัง บียาร์เรอัล โดยที่นี้เองที่ทำให้เขาฉายแววเก่ง อยู่กับ บียาร์เรอัล ได้เพียง 3 ปี ลงเล่นไปทั้งสิ้นกว่า 109 นัด ก็ถูกยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ ลิเวอร์พูล ดึงตัวไป และที่นั้นเองที่ทำให้เขารุ่งโรจน์สุดๆ

 

เรน่า ลงเล่นให้ลิเวอร์พูลกว่า 8 ปี คว้าแชมป์ต่างๆมากมาย เอฟเอคัพ และ คาร์ลิงคัพ และพาทีมไปถึงนัดชิง ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก แต่ทำได้แค่รองแชมป์ในปี 2007 หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปอีก 2 ลีกใหญ่ ในเยอรมัน กับ บาเยิร์น มิวนิค และ อิตาลี กับ นาโปลี คือสโมสรปัจจุบันของเจ้าตัว

ฮวน โรมัน ริเกลเม

“ปี 2002-2005 ลงเล่น 30 นัด”

กองกลางเชิงสูง ชาว อาเจนไตน์ เขาคือนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงคนหนึ่งในยุคนี้ ทั้งมันสมองในการเล่น การครองบอล รวมถึงลูกยิงที่สร้างความตรึงตาตรึงใจให้แก่แฟนบอลทั่วโลก แต่ช่วงชีวิตเขาเหมือนกับก้าวผิด เมื่อเขาสร้างชื่อกับ โบค่า จุเนียร์ สโมสรในประเทศบ้านเกิด ด้วยการเล่น 151 นัด ยิงถึง 38 ประตู และด้วยฟอร์มอันโหดร้าย ทำให้บาร์เซโลน่า ติดต่อเพื่อจะขอซื้อ และหอบสินสอดถึง 11 ยูโร ดึงแข้งรายนี้ข้ามน้ำข้ามทะเลมายัง คาตาลัน แต่ทุกอย่างไม่สวยงาม เขาอยู่กับ บาร์ซ่า ได้เพียงซีซั่นเดียว กลับไม่เปรี้ยงอย่างที่คิด จนถูกปล่อยยืมไป บียาร์เรอัล ในที่สุด

 

เขาโดนปล่อยยืมไป 2 ปี และตัดสินใจปักหลักอยู่ทีมเรือดำน้ำถาวร และที่นี้เองเป็นที่เรียกฟอร์มอันสุดยอดของเขากลับมาอีกครั้ง จนก้าวมาเป็นตัวหลักทั้งในสโมสร และ ทีมชาติอาร์เจนติน่า ช่วงสุดท้ายของอาชีพ เขาย้ายกลับไปเล่นที่ โบคาจูเนียร์ และ ปี 2014 เขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดกับทีม อาร์เจนติโนส จูเนียร์ เป็นสโมสรสุดท้ายในชีวิต ด้วยวัย 35 ปี

อเล็กซิส ซานเชซ

“ปี 2011-2014 ลงเล่น 88 นัด”

อดีตนักเตะเบอร์ 9 ของต่างดาว บาร์เซโลน่า เริ่มเล่นฟุตบอลในเมืองบ้านเกิด โทโคปริล่า ใน ชิลี ก่อนจะเปรี้ยงปร้างสุดๆกับ อูดิเนเซ่ ทีมดังแห่งกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ด้วยการลงเล่นเกือบ 100 เกม ยิงไป 20 ประตู เตะตาแมวมองของ บาร์ซ่าอย่างจังเบอ ก่อนในที่สุดเขาได้ย้ายมายังสโมสรอันดับ 1 ของโลก โดยมูลค่าถือว่าไม่น้อย อยู่ที่ 26 ล้านยูโร เมื่อก้าวมาที่สโมสรทุกอย่างสวยงาม(ซะที่ไหน) แม้บาร์เซโลน่าจะผลงานดี แต่เขาเป็นเพียงแค่ตัวเลือก เพื่อทดแทนตัวจริงของทีมเท่านั้น และแม้ยามได้โอกาสถึงเขาจะผลงานดี แต่สิ่งที่ตอบแทนความพยายามของเขาก็คือม้านั่งสำรอง..

 

จนสุดท้าย อาร์เซน่อล เล็งเห็นโอกาสนี้ จัดการทุ่มเงินก้อนโตถึง 31 ล้านปอนด์ กระชากแข้งเจ้าของความสูง 169 เซนติเมตรเข้าสู่ทีม และที่ พรีเมียร์ลีก เขากลายเป็นยอดนักเตะของยุโรปในทันที เขาพาอาร์เซน่อล คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ และ พาชิลี คว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2 สมัยซ้อน(2015,2016) และปัจจุบันกำลังพาต้นสังกัด ไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์อยู่ในขณะนี้

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

“ปี 2009-2011 ลงเล่น 29 นัด”

กองหน้าที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดคนนึงของโลก ก็เคยมีช่วงเวลาอันเลวร้ายในถิ่นคัมนูร์ เขาเริ่มต้นจากเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองสุดๆกับ อาร์แจ็กซ์ ก่อนจะถูก ยูเวนตุส ทีมดังจาก อิตาลี ดึงตัวไปร่วมทีม และ 2 ปีกับม้าลายเขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกทั้ง 2 สมัย ไม่พอแค่นั้นเขาย้ายไปเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน ในปีแรกที่ย้าย เขาพาทีมคว้า 2 แชมป์(เซเรีย อา,ซุปเปอร์ โคปา) และในเวลา 3 ปีที่อยู่กับทีมเขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกทั้ง 3 ปี จนทำให้ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า ต้องทำทุกวิธีทางเพื่อดึงตัวหอกรายนี้มา โดยได้ประเคนเงิน 43.25 ล้านยูโร + ซามูเอล เอโต้ เพื่อกระชาก อิบราฯ มาในปี 2009 แต่เหมือนกับ DNA เขาไม่เข้ากับต่างดาว..

 

ย้ายมาอยู่เพียง ซีซั่นเดียวเขากลับอยู่ภายใต้ร่มเงาของ เมสซี่ ที่ตอนนั้นจี๊ดจ๊าดสุดๆ เขาจึงตัดสินใจย้ายแบบยืมตัวไป เอซี มิลาน และย้ายขาดในอีก 1 ปีต่อมา ก่อนจะโยกไป ปารีสฯ ไปประสบความสำเร็จสุดๆที่ ฝรั่งเศส จนสุดท้ายในฤดูกาลนี้ เขาตัดสินใจย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และโชว์ฟอร์มสะแด่วแบบลืมอายุไปเลย

เชส ฟาเบรกาส

“ปี 2011-2014 ลงเล่น 96 นัด”

เชส ฟาเบรกาส เคยเป็นนักเตะเยาวชนของ บาร์เซโลน่า ก่อนจะออกไปอยู่กับ อาร์เซน่อล และได้โชว์ฟอร์มแจ่มตั้งแต่ปีแรกที่ไปอยู่ด้วยในวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น และอยู่กับทีมไอ้ปืนใหญ่ถึง 8 ปี แต่คว้าแชมป์ได้เพียง เอฟเอคัพ และ คอมมูนิตี้ ชิลด์ อย่างล่ะสมัย ก่อนจะถูก บาร์เซโลน่า ซื้อตัวกลับไปยัง คัมนูร์ อีกคำรบหนึ่ง ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร แม้อาร์เซน่อล จะพยายามรั้งตัวเขาไว้ในตอนแรก แต่ใจของเจ้าตัวเหมือนไปอยู่ที่สเปนเรียบร้อยแล้ว และการกลับมาสู่ บาร์เซโลน่า รอบที่สองมันไม่ค่อยจะราบรื่น เพราะกลางของ บาร์ซ่าในตอนนั้นมีทั้ง ซาบี, อิเนียสตา ที่ฟอรืมกำลังพีคสุดๆ !

 

ในช่วงเวลาที่เขากลับมาถิ่นเก่าในรอบนี้ ก็สามารถคว้าแชมป์ได้หลายใบ แต่ความภูมิใจคงมีไม่เต็มร้อย เพราะเป็นแค่ตัวเลือกท้ายๆในแดนกลางซะส่วนใหญ่ จนในที่สุดตัดสินใจย้ายไปจอยกับอริร่วมทีม ของอาร์เซน่อล นั้นคือ เชลซี ที่ที่ทำให้เขากลายเป็นยอดนักเตะอีกครั้ง เพียงฤดูกาลแรกกับ สิงห์บลู เขายิงไป 5 ประตู แอสซิสมากถึง 21 ครั้ง และพาเชลซี คว้าแชมป์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2014

#คะนึง ตึงเปรี๊ยะ

ทีเด็ดบอล วิเคราะห์บอล

กลับหน้า ballstep

วิเคราะห์บอล ไฮไลท์บอล ข่าวฟุตบอล ล่าสุด