ประเด็นก่อนเกม แมนฯ ยูไนเต็ด VS เชลซี
ศึกที่จะหยุดคนทั้งโลกในเกม เอฟเอ คัพ กำลังจะอุบัติขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนต็ด จะต้องไฟท์กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี และจะมีเพียงหนึ่งเดียวที่จะทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศกับ อาร์เซน่อล มีประเด็นอะไรก่อนเกมที่ควรรู้บ้าง เราไปดูกันเลย
ผี พักมาน้อยกว่า
48 ชั่วโมงคือตัวเลขที่ ยูไนเต็ด(แข่ง 16-7-63) ต้องเสียเปรียบแน่ๆในการที่ทีมมีเวลาจัดการร่างกายกับนักเตะน้อยกว่าทางฝั่ง เชลซี(แข่ง 14-7-63) อีกทั้งการที่เกมล่าสุดพวกเขาตัดสินใจส่งชุดที่ดีที่สุดลงสนามเอาชนะ พาเลซ มา 2-0 ยิ่งทำให้เป็นเรื่องเสียเปรียบเข้าไปอีก
ต่างฝ่ายมีปัญหานักเตะเจ็บ
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คือคีย์แมนสำคัญของ เชลซี ที่ชวดลงเล่นเกมนี้แน่นอนแล้ว หลังจากมีปัญหาบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขา ไม่ต่างอะไรกับ ผีแดง ที่มีโอกาสสูงกับการไร้แบ็คซ้ายตัวจริงทั้ง ชอว์ และ วิลเลี่ยมส์
เกมรุก ผีแดง เดือดจริง-สิงห์ หงอยๆ
นับแค่เฉพาะช่วง 2 เกมหลังสุดเห็นความแตกต่างชัดเจนคือเรื่องของเกมรุก แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงเกมล่ะ 2, 3 บางเกม 5 ประตู ใน 2 เกมหลังเครื่องแรงไม่มีตก ยิงไป 4 ประตู ผิดกับทางฝั่ง เชลซี เจาะแนวรับคู่แข่งได้ครั้งเดียวจาก 2 เกมหลัง
จะเป็นการเจอกันหนที่ 4 ในฤดูกาลนี้
สนุกอยู่ข้างเดียวสำหรับการเจอกัน 3 หนหลัง ทั้ง
เกมลีกนัดเปิดสนาม แมนยู เอาชนะไป 4-0
เกมบอลถ้วย อีเอฟแอล แมนยู จัดให้อีก 2-1
และบุกไปย้ำแค้นเป็นครั้ที่ง 3 ในเกมลีก 2-0
นี่จะเป็นการเจอกันหนที่ 4 ในปีนี้ แต่เมื่อเหลือบขึ้นไปมอง 3 ครั้งก่อน ผีแดง ยิงไป 8 ประตู เสียแค่ประตูเดียว ชนะรวดมาทั้งหมด ถึงอย่างไรก็อาจจะเอามาอ้างอิงไม่ได้ในเกมนี้(ขนาดเกมเมื่อคืน ปืน อัด เรือ แบบรถผ้าป่าคว่ำเลย)
อวสาน แมนเชสเตอร์ หรือ จะมีแมตซ์ red war red
ไม่ได้มาตามนัดสำหรับ ซิตี้ ที่แพ้ไปเมื่อคืน ทำให้ red แรกเข้าไปรอชิงชนะเลิศ สำหรับ อาร์เซน่อล ในค่ำคืนนี้น่าสนใจมากว่าใครจะเข้าไปเป็นทีมต่อไป จากประเด็นการแข่งขันแย่งพื้นที่ ยูซีแอล โดยตรงของทั้ง 2 ทีม เราอาจจะเห็นการจัดทัพแบบขัดใจแฟนบอลบ้าง แต่เชื่อเหลือเกินว่าเกมนี้จะสนุกไม่แพ้ 3 เกมที่พวกเขาเจอกันมาก่อนหน้านี้ เพราะ แลมพาร์ด และ โซลชา มีลูกบ้าที่เราคาดไม่ถึงทั้งคู่